แผนรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินด้าน IT (Disaster
Recovery Plan)
แผนรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินด้าน IT หรือ Disaster
Recovery Plan (DRP) เป็นกลยุทธ์ที่องค์กรใช้เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบ
IT และข้อมูลสำคัญ เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ การล่มของระบบ
หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ แผนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานด้าน IT
สามารถฟื้นฟูและกลับมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็วหลังจากเหตุการณ์ที่ทำให้ระบบล่มหรือเกิดความเสียหาย
ตัวอย่างข้อมูลสำคัญที่นำมาประกอบการเขียนแผนด้าน Information
Technology
1. วัตถุประสงค์ของแผน
แผนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าระบบ IT ขององค์กรสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ระบบล่มหรือเกิดความเสียหาย
โดยมุ่งเน้นที่การรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล การฟื้นฟูบริการที่สำคัญ
และการลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูล
วัตถุประสงค์ของแผน DRP สำหรับ IT คือการจัดเตรียมกลยุทธ์และกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อรับมือและฟื้นฟูระบบ
IT ขององค์กรหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ระบบหรือข้อมูลสำคัญเกิดความเสียหายหรือหยุดชะงัก
แผนนี้มุ่งหวังให้
· ปกป้องข้อมูลสำคัญ ป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ
โดยการสร้างกลไกการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและการกู้คืนข้อมูลจากสำรอง
· ฟื้นฟูการดำเนินงานอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูการดำเนินงานของระบบ IT ให้กลับมาทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลังจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานต่อไปได้โดยไม่มีการหยุดชะงักที่ยาวนาน
· ลดผลกระทบต่อธุรกิจ ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดชะงักของระบบ
IT โดยการเตรียมความพร้อมสำหรับการตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
· สร้างความมั่นใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้ความมั่นใจกับลูกค้า ผู้ถือหุ้น
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่ามีแผนและมาตรการที่พร้อมสำหรับการจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับ
IT
· สนับสนุนการปฏิบัติตามข้อกำหนด ช่วยให้องค์กรสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยของระบบ
IT
· เพิ่มความพร้อมในการตอบสนอง เตรียมบุคลากรและทรัพยากรให้พร้อมสำหรับการจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
โดยการฝึกอบรมและทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ
การมีแผน DRP ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ทำให้ระบบ
IT ขัดข้อง
และสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
2. ขอบเขตของแผน
แผนนี้ครอบคลุมทุกระบบ IT ที่สำคัญขององค์กร
รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย
และแอปพลิเคชันที่ใช้ในการดำเนินงานประจำวัน
ขอบเขตของแผนยังรวมถึงกระบวนการในการกู้คืนข้อมูลสำรองและการทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ
ขอบเขตของแผน
DRP
สำหรับ IT คือการกำหนดขอบเขตและพื้นที่ที่แผนจะครอบคลุมเพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรสามารถจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ส่งผลกระทบต่อระบบ
IT และข้อมูลสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอบเขตนี้รวมถึง
·
ระบบ IT และโครงสร้างพื้นฐาน ระบุระบบ IT และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่ต้องมีการป้องกันและฟื้นฟู
ซึ่งอาจรวมถึงเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ระบบเครือข่าย ระบบการจัดเก็บข้อมูล
และแอปพลิเคชันที่สำคัญ
·
ข้อมูลและแอปพลิเคชัน ระบุประเภทและความสำคัญของข้อมูลและแอปพลิเคชันที่ต้องได้รับการสำรองและฟื้นฟู
รวมถึงข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลการดำเนินงาน
และแอปพลิเคชันที่สำคัญต่อการดำเนินงานของธุรกิจ
·
กระบวนการและขั้นตอนการฟื้นฟู กำหนดกระบวนการและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการในการฟื้นฟูระบบ
IT
และข้อมูลหลังจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ขั้นตอนการกู้คืนระบบ
การกู้คืนข้อมูลจากสำรอง และการติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่
·
บทบาทและหน้าที่ของบุคลากร ระบุบทบาทและหน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
รวมถึงทีม IT
ผู้จัดการ IT และบุคลากรที่รับผิดชอบในการดำเนินการตามแผน
·
การสำรองข้อมูล กำหนดกลยุทธ์และขั้นตอนในการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลสำรองในสถานที่ที่ปลอดภัยและสามารถเข้าถึงได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
·
การสื่อสาร ระบุวิธีการและช่องทางในการสื่อสารกับบุคลากรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระหว่างเหตุการณ์ฉุกเฉิน
การสื่อสารเกี่ยวกับสถานะของการฟื้นฟูและการอัปเดตข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
·
การทดสอบและฝึกอบรม กำหนดแนวทางในการทดสอบแผน DRP และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้แน่ใจว่าแผนสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการทดสอบแผนในรูปแบบของการจำลองสถานการณ์และการทดสอบระบบ
·
การปรับปรุงแผน กำหนดกระบวนการในการตรวจสอบและปรับปรุงแผน DRP อย่างต่อเนื่องเพื่อให้แผนทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในระบบ IT
และการดำเนินงานขององค์กร
การกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนสำหรับแผน
DRP
จะช่วยให้องค์กรสามารถเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ส่งผลกระทบต่อระบบ
IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของธุรกิจ
3. การประเมินความเสี่ยง
การประเมินความเสี่ยงจะระบุภัยคุกคามที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบ IT เช่น
การโจมตีทางไซเบอร์ การล่มของระบบ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ
การประเมินนี้จะช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของระบบและข้อมูลที่ต้องได้รับการปกป้องและฟื้นฟู
การประเมินความเสี่ยงเป็นขั้นตอนสำคัญในแผน DRP เพื่อระบุและวิเคราะห์ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบ
IT และข้อมูลสำคัญขององค์กร
การประเมินความเสี่ยงช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์และมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันและฟื้นฟูระบบหลังจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
โดยกระบวนการนี้จะครอบคลุมดังนี้
- ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม
แผ่นดินไหว หรือพายุที่อาจทำให้ระบบ IT และโครงสร้างพื้นฐานเสียหาย
- ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ เช่น
การโจมตีทางไซเบอร์ การแฮ็ก ข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ หรือการรั่วไหลของข้อมูล
- ปัญหาทางเทคนิค เช่น
การล่มของเซิร์ฟเวอร์ ความล้มเหลวของระบบการจัดเก็บข้อมูล
หรือปัญหาด้านเครือข่าย
- ปัญหาทางการปฏิบัติงาน เช่น
ความผิดพลาดของมนุษย์ การจัดการข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
หรือปัญหาทางการจัดการภายใน
- การประเมินผลกระทบ
- การวิเคราะห์ผลกระทบ ประเมินว่าความเสี่ยงแต่ละประเภทจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของระบบ
IT อย่างไร เช่น การสูญหายของข้อมูล
ความล่าช้าในการดำเนินงาน หรือการหยุดชะงักของบริการ
- การกำหนดลำดับความสำคัญ ประเมินความรุนแรงและผลกระทบของแต่ละความเสี่ยง
เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการจัดการและการฟื้นฟู
- การประเมินความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุการณ์
- การวิเคราะห์ความน่าจะเป็น ประเมินโอกาสที่เหตุการณ์แต่ละประเภทจะเกิดขึ้น
เช่น ความถี่ของการโจมตีทางไซเบอร์
หรือความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในพื้นที่ที่ตั้งขององค์กร
- การกำหนดมาตรการป้องกันและการควบคุม
- การวางมาตรการป้องกัน กำหนดมาตรการในการลดความเสี่ยง
เช่น การติดตั้งระบบป้องกันไวรัส การสำรองข้อมูลเป็นประจำ
และการฝึกอบรมพนักงาน
- การวางมาตรการควบคุม สร้างกลยุทธ์และขั้นตอนในการจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
เช่น การมีแผนการฟื้นฟูที่ชัดเจน การทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ
และการอัปเดตข้อมูลการติดต่อ
- การตรวจสอบและปรับปรุงความเสี่ยง
- การตรวจสอบความเสี่ยง ทำการตรวจสอบความเสี่ยงและมาตรการป้องกันเป็นระยะ
เพื่อให้แน่ใจว่ายังสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้
- การปรับปรุง ปรับปรุงแผนการจัดการความเสี่ยงและมาตรการป้องกันตามผลการตรวจสอบและการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีหรือสภาพแวดล้อม
การประเมินความเสี่ยงในแผน DRP จะช่วยให้สามารถจัดการกับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบ
IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และทำให้แผนฟื้นฟูมีความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
4. แผนการฟื้นฟูระบบ
- การสำรองข้อมูล กำหนดกระบวนการในการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลสำรองในสถานที่ที่ปลอดภัย
- การกู้คืนระบบ ระบุขั้นตอนในการกู้คืนระบบ IT หลังจากเกิดเหตุการณ์ เช่น การติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่
การกู้คืนข้อมูลจากสำรอง และการตรวจสอบความถูกต้องของระบบ
- การสื่อสาร กำหนดวิธีการสื่อสารกับทีมงานและผู้เกี่ยวข้องในระหว่างการฟื้นฟู
เพื่อให้ข้อมูลและสถานะของการฟื้นฟูได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง
แผนการฟื้นฟูระบบ IT เป็นกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าระบบ IT ขององค์กรสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหลังจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ทำให้ระบบล่มหรือข้อมูลสูญหาย
แผนนี้ประกอบด้วยหลายขั้นตอนที่สำคัญซึ่งควรพิจารณาและดำเนินการอย่างครบถ้วน
4.1. การเตรียมความพร้อม
- การสำรองข้อมูล กำหนดกระบวนการและตารางเวลาสำหรับการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลสำรองในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น ศูนย์ข้อมูลสำรอง (off-site
backup) หรือคลาวด์
- การตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลทำงานได้อย่างถูกต้องและสามารถกู้คืนข้อมูลได้ตามที่ต้องการ
4.2. การจัดทำแผนการฟื้นฟู
- การระบุระบบและข้อมูลสำคัญ ระบุระบบ IT และข้อมูลที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานขององค์กร
รวมถึงแอปพลิเคชันที่สำคัญและเซิร์ฟเวอร์ที่เกี่ยวข้อง
- การกำหนดลำดับความสำคัญ จัดลำดับความสำคัญของการฟื้นฟูระบบตามความสำคัญของระบบและข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าการฟื้นฟูจะดำเนินการตามลำดับที่มีผลกระทบน้อยที่สุดต่อธุรกิจ
4.3. ขั้นตอนการฟื้นฟู
- การประเมินสถานการณ์ ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นและระบุขอบเขตของปัญหา
เช่น การล่มของเซิร์ฟเวอร์ การสูญหายของข้อมูล หรือปัญหาด้านเครือข่าย
- การกู้คืนระบบ
- การกู้คืนจากสำรองข้อมูล ดำเนินการกู้คืนข้อมูลและระบบจากการสำรองข้อมูลที่จัดเก็บไว้
- การติดตั้งและการกำหนดค่า ติดตั้งและกำหนดค่าระบบที่จำเป็นให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
รวมถึงการติดตั้งซอฟต์แวร์และการตั้งค่าฮาร์ดแวร์
- การตรวจสอบและทดสอบ ตรวจสอบและทดสอบระบบหลังจากการกู้คืนเพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้องและข้อมูลไม่เสียหาย
4.4. การสื่อสาร
- การจัดการการสื่อสาร ระบุวิธีการและช่องทางในการสื่อสารกับทีมงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับสถานะของการฟื้นฟู
รวมถึงการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับความก้าวหน้าและการจัดการปัญหา
- การแจ้งเตือน มีระบบการแจ้งเตือนที่สามารถสื่อสารกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องและลูกค้าเกี่ยวกับสถานะของบริการและการดำเนินการที่จำเป็น
4.5. การฝึกอบรมและการทดสอบ
- การฝึกอบรมบุคลากร จัดการฝึกอบรมให้กับทีม IT และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟู
และให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการที่สำคัญ
- การทดสอบแผน ทำการทดสอบแผนการฟื้นฟูเป็นระยะ เช่น
การจำลองสถานการณ์ (drills) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแผนและทำการปรับปรุงตามผลการทดสอบ
4.6. การปรับปรุงแผน
- การตรวจสอบและประเมินผล ตรวจสอบผลการดำเนินงานของแผนหลังจากเหตุการณ์ฉุกเฉินและทำการปรับปรุงแผนตามข้อเสนอแนะและบทเรียนที่ได้เรียนรู้
- การอัปเดตแผน อัปเดตแผนการฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในระบบ
IT และความต้องการขององค์กร
การมีแผนการฟื้นฟูระบบ IT ที่ชัดเจนและมีการเตรียมความพร้อมที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว
ลดความเสี่ยงจากการสูญหายของข้อมูล
และช่วยให้การดำเนินงานกลับมาสู่สถานะปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. บทบาทและหน้าที่
บทบาทและหน้าที่ที่ชัดเจนภายในแผน DRP สำหรับ IT มีความสำคัญต่อการดำเนินการฟื้นฟูระบบ IT อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
การกำหนดบทบาทและหน้าที่ที่ชัดเจนจะช่วยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจถึงความรับผิดชอบของตนและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
5.1. ทีมบริหาร (Executive
Management Team)
- บทบาท การตัดสินใจในระดับสูงและการให้การสนับสนุนทางการเงินและทรัพยากรสำหรับแผน
DRP
- หน้าที่
- รับรองว่าแผน DRP ได้รับการอนุมัติและสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
- กำหนดนโยบายและแนวทางในการฟื้นฟูระบบ IT
- สื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับสถานะของการฟื้นฟู
5.2. ทีม IT (IT
Recovery Team)
- บทบาท การดำเนินการตามแผนการฟื้นฟูระบบ IT และการกู้คืนระบบที่เสียหาย
- หน้าที่
- การประเมินสถานการณ์ ตรวจสอบความเสียหายและสถานะของระบบ
IT หลังจากเกิดเหตุการณ์
- การกู้คืนข้อมูลและระบบ ดำเนินการกู้คืนข้อมูลจากการสำรองข้อมูลและฟื้นฟูระบบที่เกี่ยวข้อง
- การติดตั้งและกำหนดค่า ติดตั้งและกำหนดค่าระบบ
IT ใหม่หรือลงซอฟต์แวร์ที่จำเป็น
- การตรวจสอบระบบ ทดสอบและตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการกู้คืน
5.3. ทีมจัดการความเสี่ยง
(Risk Management Team)
- บทบาท การประเมินและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแผน
DRP
- หน้าที่
- การประเมินและระบุความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบ IT
- การพัฒนากลยุทธ์การป้องกันและมาตรการควบคุมความเสี่ยง
- การตรวจสอบและปรับปรุงแผน DRP ตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
5.4. ทีมสนับสนุน (Support
Team)
- บทบาท การให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทีม IT และทีมบริหารในช่วงวิกฤต
- หน้าที่
- การสื่อสาร ดูแลการสื่อสารภายในทีมและกับบุคคลภายนอกเกี่ยวกับสถานะของการฟื้นฟู
- การจัดการทรัพยากร จัดหาทรัพยากรและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟู
- การสนับสนุนบุคลากร ให้การสนับสนุนด้านบุคลากรและการจัดการบุคคล
5.5. ทีมฝึกอบรมและการทดสอบ
(Training and Testing Team)
- บทบาท การเตรียมการฝึกอบรมและการทดสอบแผน DRP
- หน้าที่
- การฝึกอบรม จัดการฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับแผน DRP และขั้นตอนการฟื้นฟู
- การทดสอบแผน ดำเนินการทดสอบแผน
DRP เป็นระยะเพื่อประเมินประสิทธิภาพและทำการปรับปรุง
- การประเมินผล รวบรวมและวิเคราะห์ผลการทดสอบเพื่อปรับปรุงแผน
DRP
การกำหนดบทบาทและหน้าที่ที่ชัดเจนในแผน DRP สำหรับ IT จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ลดความเสี่ยงจากการสูญหายของข้อมูลและการหยุดชะงักของระบบ IT และทำให้การฟื้นฟูสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
6. การทดสอบแผน
แผนจะต้องมีการทดสอบเป็นระยะเพื่อประเมินประสิทธิภาพและปรับปรุงการดำเนินการ
การทดสอบสามารถทำได้ในรูปแบบของการจำลองสถานการณ์ (drills) หรือการทดสอบระบบ
(tests) เพื่อให้มั่นใจว่าแผนสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทดสอบแผน DRP เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าแผนการฟื้นฟูระบบ IT
สามารถดำเนินการได้ตามที่คาดหวังเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
การทดสอบช่วยให้สามารถระบุจุดอ่อนในแผน ปรับปรุงกระบวนการ
และเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมงานเกี่ยวกับการดำเนินการในสถานการณ์จริง การทดสอบแผน DRP
IT มักจะประกอบด้วยการทดสอบหลายประเภท
6.1. การทดสอบโต๊ะ (Tabletop
Exercise)
- วัตถุประสงค์ ประเมินความเข้าใจของทีมเกี่ยวกับแผน DRP และทบทวนกระบวนการและขั้นตอนในการฟื้นฟู
- กระบวนการ จัดประชุมกับทีมที่เกี่ยวข้องและทำการจำลองเหตุการณ์ฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในแผน
การปรับปรุงกระบวนการ และการเพิ่มความชัดเจนในบทบาทและหน้าที่ของทีม
6.2. การทดสอบการกู้คืน (Recovery
Testing)
- วัตถุประสงค์ ทดสอบกระบวนการกู้คืนระบบ IT และข้อมูลจากการสำรองข้อมูล
- กระบวนการ ดำเนินการกู้คืนข้อมูลและระบบจากการสำรองข้อมูลตามแผน
DRP และตรวจสอบว่าข้อมูลและระบบสามารถกลับมาทำงานได้อย่างถูกต้อง
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การตรวจสอบความสมบูรณ์ของการกู้คืนข้อมูลและระบบ
การระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการกู้คืน
และการตรวจสอบประสิทธิภาพของการฟื้นฟู
6.3. การทดสอบความสามารถในการทำงาน
(Failover Testing)
- วัตถุประสงค์ ทดสอบความสามารถในการสลับการดำเนินงานจากระบบหลักไปยังระบบสำรอง
- กระบวนการ จำลองสถานการณ์ที่ระบบหลักล้มเหลวและทำการสลับไปยังระบบสำรองเพื่อตรวจสอบการทำงานและการตอบสนองของระบบสำรอง
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การตรวจสอบการทำงานของระบบสำรองและความสามารถในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง
ระบบสำรองต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.4. การทดสอบระบบ (System
Testing)
- วัตถุประสงค์ ตรวจสอบการทำงานของระบบ IT หลังจากการกู้คืนเพื่อให้แน่ใจว่าทุกระบบทำงานตามที่คาดหวัง
- กระบวนการ ทดสอบการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ ซอฟต์แวร์
และเครือข่ายหลังจากการฟื้นฟู และตรวจสอบว่าระบบสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การตรวจสอบว่าแอปพลิเคชันและบริการทำงานได้อย่างถูกต้อง
และไม่มีปัญหาทางเทคนิคหลังการกู้คืน
6.5. การทดสอบความพร้อม (Readiness
Testing)
- วัตถุประสงค์ ทดสอบความพร้อมของบุคลากรและทรัพยากรในการดำเนินการตามแผน
DRP
- กระบวนการ ตรวจสอบความพร้อมของทีมงานและทรัพยากรที่ใช้ในการฟื้นฟู
เช่น
การตรวจสอบการฝึกอบรมของทีมและการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือ
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การยืนยันความพร้อมของบุคลากรและทรัพยากรในการดำเนินการตามแผน
DRP
6.6. การทดสอบความสมบูรณ์
(Integrity Testing)
- วัตถุประสงค์ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลและระบบหลังการกู้คืน
- กระบวนการ ทดสอบข้อมูลที่กู้คืนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลสูญหายหรือเสียหาย
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง การตรวจสอบว่าข้อมูลและระบบมีความสมบูรณ์และไม่ผิดพลาดหลังการกู้คืน
การทดสอบแผน DRP อย่างสม่ำเสมอช่วยให้แน่ใจว่าแผนการฟื้นฟูระบบ IT สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมสำหรับการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
โดยการทดสอบจะช่วยในการปรับปรุงแผนและกระบวนการฟื้นฟูให้ดียิ่งขึ้น
7. การปรับปรุงแผน
แผน DRP จะต้องได้รับการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการดำเนินงานขององค์กร
การปรับปรุงนี้รวมถึงการอัปเดตข้อมูลการติดต่อ การปรับปรุงขั้นตอนการฟื้นฟู
และการรวมบทเรียนที่ได้จากการทดสอบหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การปรับปรุงแผน DRP IT เป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าแผนการฟื้นฟูระบบ
IT ยังคงทันสมัยและมีประสิทธิภาพต่อการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
การปรับปรุงแผน DRP IT ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะๆ
เพื่อให้แผนสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม
กระบวนการปรับปรุงแผน DRP IT ประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้
7.1. การตรวจสอบและประเมินผล
- การตรวจสอบแผน DRP ทำการตรวจสอบแผน DRP ที่มีอยู่โดยการทบทวนเอกสารและกระบวนการที่ใช้ในแผน
เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและความครบถ้วน
- การประเมินผลการทดสอบ วิเคราะห์ผลจากการทดสอบแผน DRP (เช่น การทดสอบโต๊ะ การทดสอบการกู้คืน)
เพื่อระบุจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องในแผน
- การรวบรวมข้อเสนอแนะ รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทีมงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการปรับปรุงแผน
7.2. การอัปเดตข้อมูลและการเปลี่ยนแปลง
- การปรับปรุงข้อมูลการติดต่อ ตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลการติดต่อของบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแผน
DRP
- การปรับปรุงระบบและเทคโนโลยี ปรับปรุงแผนเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในระบบ
IT เช่น การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐาน
การติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ หรือการใช้บริการคลาวด์
- การปรับปรุงกระบวนการ ปรับปรุงกระบวนการฟื้นฟูและการกู้คืนตามข้อบกพร่องที่พบในระหว่างการทดสอบและประเมินผล
7.3. การฝึกอบรมและการทดสอบใหม่
- การฝึกอบรมบุคลากร ให้การฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในแผน
DRP และการปรับปรุงที่เกิดขึ้น
- การทดสอบแผน ทำการทดสอบแผน DRP ใหม่เพื่อยืนยันว่าการปรับปรุงที่ดำเนินการมีผลตามที่คาดหวัง
และแผนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7.4. การสื่อสารและการเผยแพร่
- การสื่อสารการเปลี่ยนแปลง สื่อสารการปรับปรุงแผน DRP ให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- การเผยแพร่เอกสาร อัปเดตเอกสารแผน DRP และเผยแพร่เอกสารที่ได้รับการปรับปรุงให้กับทีมงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
7.5. การตรวจสอบและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- การตรวจสอบความสอดคล้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผน DRP ปัจจุบันยังคงสอดคล้องกับนโยบายองค์กรและข้อกำหนดทางกฎหมาย
- การปรับปรุงตามความต้องการ ปรับปรุงแผน DRP ตามความต้องการและการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจหรือเทคโนโลยี
การปรับปรุงแผน DRP IT อย่างต่อเนื่องช่วยให้แน่ใจว่าแผนการฟื้นฟูระบบ IT
จะมีความทันสมัยและสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของระบบ IT และสนับสนุนความมั่นคงและความต่อเนื่องของการดำเนินงานขององค์กร
แผนการรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินด้าน IT จะช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากการสูญเสียข้อมูลและการหยุดชะงักของระบบ
IT โดยการเตรียมความพร้อมในการจัดการกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น