วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2567

PDPA คืออะไร พร้อมตัวอย่างการดำเนินการในองค์กรแต่ละหัวข้อ

 PDPA ย่อมาจาก Personal Data Protection Act หรือในภาษาไทยคือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลในด้านข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อกำหนดแนวทางในการจัดเก็บ ใช้ และเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อมูลหลักของ PDPA

1.         การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection)

o   PDPA กำหนดให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, ข้อมูลทางการเงิน, และข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ ต้องได้รับการคุ้มครองจากการเข้าถึงหรือการใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

o   ข้อมูลส่วนบุคคลต้องถูกจัดเก็บและประมวลผลอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส โดยเจ้าของข้อมูลต้องรับรู้และยินยอมในกระบวนการดังกล่าว

2.         สิทธิของเจ้าของข้อมูล (Data Subject Rights)

o   เจ้าของข้อมูลมีสิทธิต่าง ๆ ภายใต้ PDPA เช่น สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล, สิทธิในการแก้ไขข้อมูล, สิทธิในการลบข้อมูล, สิทธิในการขอคัดค้านการใช้ข้อมูล และสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้

3.         หน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller)

o   ผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) เป็นบุคคลหรือองค์กรที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA โดยต้องจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การกำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัว การจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย และการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบเมื่อมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

4.         การบังคับใช้และบทลงโทษ (Enforcement and Penalties)

o   PDPA มีบทลงโทษสำหรับการละเมิดข้อกำหนดในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงบทลงโทษทางปกครอง ทางแพ่ง และทางอาญา ขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของการละเมิด

o   หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้ PDPA ในประเทศไทยคือ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบและลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

5.         การบูรณาการกับกฎหมายอื่น ๆ

o   PDPA มีความสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ เช่น GDPR (General Data Protection Regulation) ของสหภาพยุโรป โดยมีแนวทางที่คล้ายคลึงกันในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยให้การดำเนินการขององค์กรที่มีการดำเนินงานในระดับสากลสามารถปรับใช้ได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์ของ PDPA

  • เพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้า  ทำให้ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียมีความมั่นใจในการจัดการและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร
  • สอดคล้องกับกฎหมายสากล  ช่วยให้องค์กรที่ดำเนินงานในระดับสากลสามารถปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหลายประเทศได้ง่ายขึ้น
  • ลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูล  การปฏิบัติตาม PDPA ช่วยลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและการถูกลงโทษตามกฎหมาย

การดำเนินการตาม PDPA จำเป็นต้องมีการปฏิบัติอย่างเป็นระบบและชัดเจน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย ด้านล่างนี้คือขั้นตอนการดำเนินการตาม PDPA พร้อมกับตัวอย่างการดำเนินการจริงในองค์กร

1. การประเมินสถานะปัจจุบัน (Assessment of Current Status)

  • ขั้นตอน  ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์การจัดเก็บและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในองค์กร เช่น ข้อมูลลูกค้า, พนักงาน, และผู้รับบริการ
  • ตัวอย่าง  บริษัทขายสินค้าออนไลน์เริ่มต้นด้วยการทำรายการข้อมูลลูกค้าที่ถูกเก็บไว้ในระบบ เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, และรายละเอียดการสั่งซื้อ จากนั้นจึงตรวจสอบว่าใช้ข้อมูลนี้ในวัตถุประสงค์ใดบ้าง และมีการจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้นานเท่าไร

2. การจัดตั้งระบบการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (Establishing a Privacy Management System)

  • ขั้นตอน  จัดตั้งระบบและกระบวนการเพื่อจัดการและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การจัดทำ Privacy Policy และการกำหนดบทบาทหน้าที่สำหรับผู้ควบคุมข้อมูล
  • ตัวอย่าง  บริษัทพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ จัดทำ Privacy Policy ที่ระบุวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ เช่น การใช้คุกกี้ และรายละเอียดการแบ่งปันข้อมูลกับบุคคลที่สาม จากนั้นเผยแพร่ Privacy Policy นี้ในแอปพลิเคชันและเว็บไซต์

3. การขอความยินยอม (Obtaining Consent)

  • ขั้นตอน  ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนที่จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยต้องมีวิธีที่ชัดเจนในการขอและถอนความยินยอม
  • ตัวอย่าง  เมื่อผู้ใช้สมัครบัญชีในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เว็บไซต์จะมีการแสดงหน้าต่างป๊อปอัปให้ผู้ใช้ยินยอมในการเก็บข้อมูลเพื่อการตลาดโดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะยินยอมหรือไม่ และสามารถเปลี่ยนใจได้ในภายหลัง

4. การปฏิบัติตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล (Data Subject Rights)

  • ขั้นตอน  จัดตั้งกระบวนการให้เจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึง, แก้ไข, ลบ, หรือขอข้อมูลของตนเองได้ รวมถึงจัดการกับคำขอเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
  • ตัวอย่าง  บริษัทประกันภัยสร้างระบบที่ให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ของตนเองผ่านพอร์ทัลออนไลน์ และหากลูกค้าต้องการลบข้อมูลบางอย่างออกไป สามารถส่งคำขอได้ผ่านพอร์ทัลเดียวกันนี้

5. การจัดการความเสี่ยงและมาตรการป้องกัน (Risk Management and Protective Measures)

  • ขั้นตอน  ทำการประเมินผลกระทบด้านความเป็นส่วนตัวและจัดตั้งมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการควบคุมการเข้าถึง
  • ตัวอย่าง  ธนาคารทำการเข้ารหัสข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมดเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA) สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าผ่านแอปพลิเคชันมือถือ

6. การอบรมและสร้างความตระหนัก (Training and Awareness)

  • ขั้นตอน  ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับข้อกำหนดของ PDPA และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัย
  • ตัวอย่าง  โรงพยาบาลจัดอบรมให้พนักงานในทุกหน่วยงานเกี่ยวกับวิธีการจัดการข้อมูลผู้ป่วยอย่างปลอดภัย เช่น วิธีการปิดบังข้อมูลที่ไม่จำเป็นและการจัดการเอกสารทางการแพทย์

7. การจัดทำและจัดเก็บเอกสาร (Documentation)

  • ขั้นตอน  จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บันทึกการขอความยินยอมและบันทึกการประเมินผลกระทบ
  • ตัวอย่าง  บริษัทโทรคมนาคมจัดทำบันทึกการขอความยินยอมจากลูกค้าเมื่อมีการเก็บข้อมูลการใช้บริการโทรศัพท์ โดยบันทึกเหล่านี้ถูกเก็บในระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้เมื่อจำเป็น

8. การตรวจสอบและปรับปรุง (Monitoring and Continuous Improvement)

  • ขั้นตอน  ตรวจสอบการปฏิบัติตาม PDPA อย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงกระบวนการตามความจำเป็น
  • ตัวอย่าง  บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตดำเนินการตรวจสอบภายในทุกปีเพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด และปรับปรุงกระบวนการเก็บข้อมูลตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการตรวจสอบ

9. การรายงานและการปฏิบัติตาม (Reporting and Compliance)

  • ขั้นตอน  จัดตั้งกระบวนการในการรายงานเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลและปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
  • ตัวอย่าง  หากเกิดเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลในบริษัทเทคโนโลยี ทีมรักษาความปลอดภัยข้อมูลจะรายงานเหตุการณ์ต่อหน่วยงานกำกับดูแลภายใน 72 ชั่วโมง และดำเนินการแจ้งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทันที

10. การเตรียมพร้อมรับการตรวจสอบ (Audit Readiness)

  • ขั้นตอน  เตรียมเอกสารและระบบที่สอดคล้องกับข้อกำหนดเพื่อการตรวจสอบ
  • ตัวอย่าง  บริษัทขนส่งที่เก็บข้อมูลลูกค้า จัดทำเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บและการประมวลผลข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล

การดำเนินการตาม PDPA จะช่วยให้องค์กรสามารถปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่เข้มงวดในปัจจุบัน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น